ร่างกายคนเราสามารถผลิตคอลลาเจนขึ้นเองได้หรือไม่

โดยปกติแล้วร่างกายคนเราสามารถสังเคราะห์คอลลาเจนขึ้นได้เอง แต่ทว่าความสามารถในการสร้างคอลลาเจนให้กับร่างกายเรานั้นเริ่มเสื่อมลงเมื่อมีอายุ 20-25 ปี และเมื่อเราอายุ 40 ปี ความสามารถในการสร้างคอลลาเจนนั้นก็จะลดลงไปถึงระดับครึ่งหนึ่งและเมื่ออายุ 60 ปี จะเหลือเพียงไม่ถึง 20% การขาดคอลลาเจนนั้นจะทำให้ร่างกายของเราเข้าสู่วัยชราอย่างรวดเร็ว ทั้งจากที่ร่างกายได้รับโปรตีนไม่เพียงพอและจากการที่อายุเพิ่มมากขึ้น ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือผิวหนังที่เกิดการเหี่ยวย่น เพราะปัจจัยหนึ่งคือคอลลาเจนนั้นทำให้ผิวหนังเต่งตึงขึ้นได้ ฉะนั้นเราควรจะบำรุงตามความเหมาะสมของอายุที่มากขึ้นด้วย และยังมีอีกหลายสาเหตุที่ทำลายคอลลาเจน เช่น แสงแดด แสงจากหลอดไฟ มลภาวะ อนุมูลอิสระ และความเครียดต่างๆ พบว่าคนที่ตากแดดมากและอยู่ท่ามกลางมลภาวะผิวหนังจะเหี่ยวย่นง่ายกว่าคนที่ตากแดดน้อย เพราะรังสียูวีในแสงแดดจะทำลายคอลลาเจน ในแสงแดดจะมีรังสียูวีบี ซึ่งย่อมาจาก อัลตราไวโอเลตเบริน เป็นตัวทำให้ผิวไหม้ ส่วนในแสงจากหลอดไฟจะมีรังสียูวีเอ ซึ่งย่อมาจาก อัลตราไวโอเลต แอบเซนต์เบริน เป็นรังสีที่ไม่ทำให้ผิวไหม้แดง แต่จะทำลายคอลลาเจนได้มากกว่า เพราะทะลุสู่ผิวได้ลึกกว่า

 

 

นอกจากนี้คอลลาเจนยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย อาทิเช่น

มีความช่วยของเหงือกและฟัน เพื่อความแข็งแรงของฟันควรเสริมด้วยคอลลาเจนเป็นประจำ เพราะส่วนประกอบของเหงือกส่วนใหญ่คือคอลลาเจน ดังนั้นเมื่อเหงือกแข็งแรงก็จะทำให้ฟันของเรานั้นแข็งแรงด้วยเช่นกัน

มีความช่วยของเส้นเลือด เนื่องจากผนังหลอดเลือดชั้นนอกสุดมีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบ เมื่อคนเราอายุเพิ่มมากขึ้นคอลลาเจนก็จะสลายไปบางส่วน จึงเป็นสาเหตุให้หลอดเลือดขาดความยืดหยุ่น คอเลสเตอรอลและเกล็ดเลือดก็จะเกาะอยู่บริเวณผนังหลอดเลือด ทำให้เส้นเลือดฝอยอุดตันได้นั้นเอง

มีความช่วยของเส้นผมและหนังศรีษะ เนื่องจากหนังศรีษะมีส่วนประกอบของคอลลาเจนอยู่ ดังนั้นถ้าร่างกายของเราขาดคอลลาเจนจะทำให้เส้นผมมีปัญหาขึ้นได้ เช่นเส้นผมขาดสารอาหาร ซึ่งเป็นสาเหตุให้ผมร่วง เส้นผมมีขนาดเล็ก ขาดง่าย แตกปลาย และอาจเกิดผมร่วงตามมา เล็บ คอลลาเจนเป็นส่วนประกอบของเล็บ ถ้าขาดคอลลาเจนจะทำให้เล็บเปราะบาง หักง่าย และงอกช้า การทาเล็บเป็นประจำจะทำให้คอลลาเจนในเล็บถูก

การบำรุงความงามของผิวพรรณด้วยการรับประทานคอลลาเจน

原粉1-300x300คอลลาเจนมีส่วนช่วยในการป้องกันอวัยวะในร่างกายและเชื่อมอวัยวะต่างๆ ให้อยู่ด้วยกัน ช่วยให้โครงสร้างของร่างกายแข็งแรง และยืดหยุ่นดี ช่วยให้ข้อต่อต่างๆ ขยับเคลื่อนไหวไปมาไม่ติดขัด โดยเฉพาะข้อต่อในการรับน้ำหนักและขยับเคลื่อนไหวในอิริยาบถต่างๆ เช่นเดินหรือวิ่ง เป็นต้น นอกจากนี้คอลลาเจนยังเป็นตัวช่วยให้ผิวพรรณเกิดความชุ่มชื้น เสริมความเรียบตึงให้กับผิวหนัง ทำให้ผิวดูเรียบเนียนกระชับ โดยทำงานคู่กับโปรตีนอีกชนิดหนึ่งที่ชื่อ อิลาสติน ในขณะที่ คอลลาเจน มีหน้าที่เสมือนโครงร่างผิวอีลาสตินก็ทำหน้าที่ให้ความยืดหยุ่นแก่ผิวควบคู่กันไปด้วย

ร่างกายของคนเรานั้นจะมีคอลลาเจนหนาแน่นในวัยเด็กและจะค่อยๆ เสื่อมสภาพลงตามกาลเวลา จึงเห็นได้ว่าเมื่ออายุมากขึ้น เส้นใยคอลลาเจน เหล่านี้จะเสื่อมสลาย ทำให้ชั้นผิวหนังยุบตัวลงอันเป็นสาเหตุของความเหี่ยวย่นและริ้วรอย รวมถึงการเกิดปัญหาข้อเสื่อม กระดูกเสื่อม อันเนื่องมาจากคอลลาเจนในกระดูกลดลงทำให้กระดูกไม่สามารถรับน้ำหนักได้ขาดความยืดหยุ่น เปราะหักง่าย เป็นต้น โดยพบว่าคนที่มีอายุ 25 ขึ้นไป จะมีปริมาณคอลลาเจนลดลงทุกปี ปีละ 1.5% อย่างไรก็ตาม เราสามารถเสริมสร้างคอลลาเจนให้ร่างกายได้ด้วยการฉีดคอลลาเจน เข้าใต้ชั้นผิวหนังแท้และอีกวิธีที่ง่ายและสะดวกคือ การรับประทานคอลลาเจนเพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของชั้นผิวหนังและเพื่อเสริมให้กระดูกแข็งแรง ควรรับประทานคลอลาเจนและแคลเซียมเสริมจะช่วยป้องกันภาวะกระดูกพรุนได้

สำหรับใครที่อยากเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายควบคู่ไปกับการบำรุงความงามของผิวพรรณด้วยการรับประทาน คอลลาเจนผง คอลลาเจนเม็ด ขอแนะนำให้ทานควบคู่ไปกับวิตามินซีเป็นประจำเพราะการรับประทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมวิตามินซีจะช่วยทำให้ประสิทธิภาพในการผลิตคอลลาเจนของร่างกายเพิ่มสูงมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากใครกำลังมองหาผลิตภัณฑ์วิตามินซี ดีๆสักชิ้นอยู่นั้น เราอยากแนะนำให้รู้จักกับ Daily Vits ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมวิตามินซีธรรมชาติสกัดจาก Acerola Cherry ที่มีปริมาณวิตามินซีสูงถึง 1500 mg. เพียงพอต่อความต้องการในการเสริมสร้างร่างกาย บำรุงผิวพรรณและเสริมภูมิคุ้มกันอย่างพอเหมาะในหนึ่งวัน