การใช้ประโยชน์จากระบบ IoT เหล่านี้

ไม่มีอะไรจะเปลี่ยนวิธีที่เราใช้ชีวิตของเรามากกว่า IoT ของสิ่งปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ แม้ว่าเทคโนโลยีเหล่านี้จะทำให้ชีวิตง่ายขึ้นและธุรกิจต่างๆมีประสิทธิภาพและทำกำไรได้มากขึ้น นี้จะทำอย่างไรกับแนวโน้มการจ้างงานและถ้านักวิทยาศาสตร์บางคนที่โดดเด่นจะเชื่อว่าเครื่องที่มีความคิดสร้างสรรค์เทียมอาจวันหนึ่งเปิดผู้สร้างของพวกเขาและทำลายมนุษยชาติทั้งหมด

IoT คาดว่าจะเชื่อมต่อผู้คนข้อมูลกระบวนการ

และอุปกรณ์ต่างๆ ในระดับมหาศาลภายในสิ้นทศวรรษนี้ซึ่งเป็นความเชื่อมโยงที่ยิ่งใหญ่ถึง 50 พันล้านรายการ ก่อนหนึ่งเริ่มกังวลเกี่ยวกับโอกาสของมนุษยชาติที่มีความเสี่ยงจากการยึดครองโดยเครื่องหนึ่งต้องคิดออกว่าโอกาสที่นำเสนอโดยอินเทอร์เน็ตของสิ่งที่ถูกนำไปใช้ที่ดีที่สุดซึ่งในตัวเองจะต้องทำบางอย่าง IoT ที่ใหญ่ที่สุดสำหรับเราจะไม่มาจากภาพยนตร์ไซไฟเหมือนกับสถานการณ์ที่เครื่องและหุ่นยนต์อัจฉริยะจะกบฏต่อมนุษย์ แต่ด้วยความอ่อนแอด้านความปลอดภัยที่การบรรจบกันของมวลชนนี้อาจก่อให้เกิด ระบบที่ออกแบบไม่ครบถ้วนอาจส่งผลกระทบต่อเครือข่ายทั้งหมดและส่งผลให้เกิดผลร้ายแรงในระดับที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

พิจารณาว่าปัญญาประดิษฐ์ที่แท้จริงอยู่ในขั้นตอน

แล้วมันค่อนข้างโง่ที่จะเอียงที่โรงงานลมเมื่อเรากังวลเกี่ยวกับอันตรายที่เกิดกับมนุษย์ ช่วยให้เราได้เรียนรู้ที่จะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ที่ได้จากอินเทอร์เน็ตอย่างเต็มที่ปัญญาประดิษฐ์ขั้นพื้นฐานและเทคโนโลยี IoT ที่พัฒนาอย่างชาญฉลาดนำมาให้เรา เมื่อถึงเวลาแล้วเราเองจะได้พบกับแนวทางแก้ไขปัญหาใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เรามักมี การปฏิวัติอุตสาหกรรมเมื่อมันมาถึงในศตวรรษที่สิบแปดทำให้เกิดความกลัวและความกลัวที่คล้ายกัน แต่สิ่งที่ทำงานออกมากหรือน้อยดีที่ส่วนท้ายของมัน มีผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจที่ร้ายแรงอย่างมากจากการปฏิวัติครั้งนี้ซึ่งจะต้องเอาชนะก่อนที่สิ่งต่างๆ จะปักหลัก

ในระหว่างนี้เราจำเป็นต้องเตรียมเยาวชนของเราเพื่อจัดการกับเทคโนโลยีใหม่ IoT เหล่านี้เนื่องจากจะช่วยให้พวกเขาหางานทำในช่วงเวลาข้างหน้า แน่นอนจะมีการสูญเสียงานสำหรับบางส่วนในบัญชีของการเพิ่มขึ้นของระบบอัตโนมัติรอบทั้งหมด แต่จะมีโอกาสอื่น ๆ มากมายสำหรับผู้ที่คาดหวังและเตรียมความพร้อมสำหรับการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในทางธุรกิจและองค์กรจะดำเนินกิจการของพวกเขาในครั้งข้างหน้า internet of things เรากำลังเข้าสู่ช่วงเวลาที่น่าสนใจมาก

ตำแหน่งที่ตั้งของแท็ก IoT แต่ละอันที่กำลังใช้ในเหมืองนั้นสามารถกำหนดได้โดยพิจารณาจากความแรงของสัญญาณ ฝ่ายไอทีได้สร้างแผนที่เหมืองแร่ทองคำขนาด 3 มิติและมีการใช้ข้อมูลเซ็นเซอร์เพื่อกำหนดตำแหน่งและอุปกรณ์บนแผนที่ สิ่งนี้ทำให้เจ้าหน้าที่ควบคุมเหมืองมีความสามารถในการดำเนินการทันทีเมื่อชิ้นส่วนเครื่องจักรเดินเข้าไปในพื้นที่ที่ไม่ถูกต้องของเหมือง IoT นอกจากนี้เมื่อมีการระเบิดเกิดขึ้นในเหมืองความสามารถในการกำหนดตำแหน่งของคนงานทุกคนในปัจจุบันเป็นความช่วยเหลืออย่างมากในการสร้างความมั่นใจว่าไม่มีคนงานที่อยู่ในเขตพังทลาย

dell มีการตอบโจทย์ที่ต้องการของลูกค้าได้อย่างดี

delldell ผู้นำเทคโนโลยีทางด้านไอที ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ dell พบกับการปรับกลยุทธ์ครั้งยิ่งใหญ่ของ dell ชูวิสัยทัศน์รุกตลาดไอทียุคใหม่และการขยายช่องทางการตลาดแบบครบ 360 องศา พร้อมเปิดตัวแม่ทัพคนล่าสุด การออกจากตลาดหลักทรัพย์เพื่อดำเนินธุรกิจในลักษณะของบริษัทจำกัด ทำให้ dell ในปัจจุบันกลายเป็นบริษัทริเริ่มที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งการออกจากตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้ ถือเป็นการเริ่มบทใหม่ในการดำเนินธุรกิจต่อยอดเพื่อก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำด้านไอทีแบบครบวงจรอย่างสมบูรณ์ และการกลับมาครั้งนี้ dell มีความยืดหยุ่นมากขึ้นกับการตอบโจทย์ที่ต้องการของลูกค้า รวมถึงการผลักดันนวัฒกรรมที่ช่วยให้ลูกค้าสำเร็จตามเป้าหมาย

เพื่อเร่งกลยุทธ์ในฐานะการเป็นบริษัทพร้อมที่จะลงทุนมากขึ้นทั้งด้านการวิจัยและการพัฒนาควบคู่ไปกับการสร้างฐาน และความแข็งแกร่งทางด้านการตลาดทั่วโลก ยังรวมไปถึงการกระตุ้นธุรกิจการเติมโตทางด้านพีซี แท็บเล็ต และบริการด้านเวอ์ชวล คอมพิวติ้ง ที่สำคัญคือการลงทุนเพื่อขยายทีมการขาย และเพิ่มพันธมิตรทางช่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อรองรับและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น จากเดิมที่เน้นการจำหน่ายผ่านทีมขายของ dell เป็นหลัก

ลือ ซัมซุงโชว์มือถือจอพับได้ในประชุมลับหลังงาน CES 2014

จบไปแล้วกับงาน CES 2014 แต่ยังมีอีกหลายการประชุมเกิดขึ้นหลังงานเลิกสำหรับโชว์เทคโนโลยีให้เหล่า ผู้บริหาร, นักลงทุนและแขกวีไอพีดู จากการรายงานของ ETNews สื่อเกาหลีใต้บอกว่า ซัมซุงก็มีการจัดประชุมลับเปิดตัวต้นแบบสมาร์ทโฟนพับได้

งาน ประชุมลับครั้งนี้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา หลังจากงาน CES 2014 จบที่โรงแรม Encore Hotel ในลาสเวกัส เหล่าแขกวีไอพีของซัมซุงถูกเชิญมารวมตัวกันเพื่อชมสมาร์ทโฟนที่คาดว่าน่าจะ เป็น Galaxy Note รุ่นที่จะออกมาในอนาคต อุปกรณ์ตัวนี้มีหน้าจอ AMOLED ขนาด 5.7 นิ้วและสามารถพับได้เหมือกระดาษ ซึ่งก่อนหน้านี้ซัมซุงก็เคยมีข่าวลือว่ากำลังซุ่มพัฒนา Galaxy Q ที่มาพร้อมจอยืดหยุ่นที่โค้งงอได้ ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นตัวเดียวกันแต่พัฒนาให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

วิศวกร จากแผนกหน้าจอของซัมซุงได้คิดค้นและแก้ปัญหาการใส่แผงรับการสัมผัสเข้ากับ หน้าจอแบบยืดหยุ่นได้สำเร็จ หลังจากที่มีรายงานว่าฟิล์ม ITO แบบเดียวที่ใช้ใน Galaxy Round เสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วจนทำให้เครื่องงอขึ้นอย่างต่อเนื่องทีละนิด เมื่อเปลี่ยนมาใช้ฟิล์ม metal mesh แบบใหม่ติดเข้าไปกับจอสัมผัส ก็จะทำให้ภาพไม่เสื่อมคุณภาพลงเวลาที่พับบจอ

น่า เสียดายที่ตอนนี้ยังไม่มีภาพหรือหลักฐานมายืนยันข่าวนี้ เราจึงนึกภาพไม่ออกว่าหน้าตาของมันจะเหมือนหรือต่างจากสมาร์ทโฟนที่เราใช้ กันอยู่แค่ไหน แต่ข้อดีอย่างนึงถ้าเจ้ามือถือเครื่องนี้ออกสู่ตลาดก็คือกระเป๋าเราจะมี พื้นที่ว่างมากขึ้น ลองนึกภาพเจ้า Galaxy Note 3 ดูสิ ถ้าหากมันสามารถพับครึ่งได้ ก็คงใส่กระเป๋ากางเกงคุณสาวๆได้สบายๆ ไม่แน่นะต่อไปมือถือแบบฝาพับอาจจะย้อนกลับมาฮิตอีกครั้งก็ได้ แน่นอนว่าการประชุมลับครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อโชว์เครื่องต้นแบบเท่านั้น คาดว่ากว่าจะเผยโฉมให้ได้เห็นกันคงต้องใช้เวลาสักพักใหญ่ๆ เลยล่ะ อย่างในงาน analysts day ปีที่แล้วที่ซัมซุงจัดขึ้นทางซัมซุงประกาศออกมาชัดเจนว่ามีแผนการพัฒนา สมาร์ทโฟนจอโค้งและพับได้ ซึ่งมือถือพับได้นั้นจะยังไม่เปิดตัวจนกว่าจะถึงปลายปี 2015 อย่าลืมนะว่าก่อนที่เราจะมีมือถือจอพับได้ใช้กัน ฮาร์ดแวร์ตัวอื่นๆ ก็ต้องสนับสนุนด้วยเช่นกัน

 

ลองมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Hosting ก่อนที่จะเลือกใช้บริการในรูปแบบต่างกันเถอะ

เรียนรู้การใช้งาน Hosting

หลายๆคนอาจจะยังคงสงสัยว่า Hosting นั้นคืออะไร แล้วทำไมการทำเว็บไซต์ถึงต้องมีการเลอืกใช้งาน Host ด้วย ซึ่งหากจะเอาความเข้าใจง่ายๆนั้น Hosting ก็คือเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตให้ผู้ที่เข้าชมเว็บไซต์สามารถเข้ามาเจอข้อมูลต่าๆงภายในเว็บไซต์ของเราได้ ซึ่ง Host แต่ละรูปแบบนั้นก็จะมีความแตกต่างกันออกไปโดยจะมีทั้ง Web Hosting, VPS และ Dedicate Server ที่มีการรองรับต่อการใช้งานเว็บไซต์ที่มีความแตกต่างกทันออกไปรวมถึงยังมีค่าใช้จ่ายที่มากน้อยต่างกันออกไปด้วย โดย Web Hosting นั้นจะเป็นการแชร์ทรัพยากรของเครื่องให้กับผู้ใช้งานทั้งหมดบน Web Hosting ซึ่งก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาการใช้งานได้ง่ายหากว่ามีการใช้งานที่มากจนเกินไป ซึ่งอาจจะทำให้โฮสที่ใช้งานอยู่นั้นล่มขึ้นมาก็ได้เช่นก่ัน เพราะไม่ได้มีการแบ่งทรัพยากรให้ใช้ในจำนวนที่เท่ากันแต่เป็นการแชร์กันทั้งหมด จึงไม่เหมาะสำหรับการใช้งานเว็บไซต์ที่มีขนาดใหญ่หรือจะต้องมีการรับส่งข้อมุลอยู่ตลอดเวลานั่นเอง ส่วน VPS หรือ Virtual Private Server นั้นเป็นการแบ่งทรัพยากร Hosting ให้กับผู้ใช้งานทั้งหมดบน Host ในจำนวนที่กำหนดเอาไว้ ซึ่งโดยปกติแล้วก็จะขึ้นอยู่กับแพคเกจของ VPS นั้นๆว่าผู้ใช้งานเลือกใช้แพคเกจที่มีทรัพยากรให้ใช้งานมากน้อยแค่ไหน แต่ก็จะดีกว่า Web Hosting เพราะแต่ละคนจะมีทรัพยากรที่สามารถใช้งานได้ที่ได้ถูกกำหนดเอาไว้ทั้งหมด และใน่สวนของ Dedicate Server นั้นจะเป็นการใช้งานทรัพยากร Hosting ทั้งหมดด้วยผู้ใช้งานคนเดียว หรือจะเรียกว่าเป็นเจ้าของ Host เลยก็ได้เช่นกัน ดังนั้นผู้ใช้งานจึงสามารถที่จะทำการควบคุมการใข้งานทั้งหมดได้ด้วยตนเอง และยังสามารถที่จะจัดสรรปันส่วนทรัพยากรให้เหมาะสมได้ตามที่ต้องการ ซึ่งการใช้งาน Dedicate Server นั้นส่วนมากจะเป็นเว็บไซต์ที่มีขนาดใหญ่หรือต้องการความปลอดภัยในการใช้งานเว็บไซต์ที่สูง เพราะจะไม่มีใครสามารถเข้ามาดูข้อมูลใน Dedicate Server ของเราได้เลยนั่นเอง แต่ก็จะมีค่าใช้จ่ายในการใช้งาน Hosting ที่สูงด้วยเช่นกัน

การเลือกใช้งานบริการ Host นั้นควรที่จะเลือกจากอะไรเป็นสำคัญ

สำหรับการเลือกใช้งาน Host นั้นผู้ใช้งานควรที่จะเลือกจากการให้บริการเป็นอย่างแรก เพราะการใช้งาน Hosting นั้นมีความสำคัญที่สุดสำหรับเว็บไซต์ เพราะหากว่า Host ที่เราใช้งานอยู่มีปัญหาก็ะส่งผลให้ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตไม่สามารถที่จะเข้ามายังเว็บไซต์ของเราได้เลย ดังนั้นการเลือกใช้บริการ Host ที่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลให้ตลอด 24 ชั่วโมงจึงเป็นเรื่องที่ดีที่สุดนั่นเอง รวมถึงหากเกิดปัญหาขึ้นทเราก็สามารถที่จะทำการติดต่อและจ้งปัญหาให้กับเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลา เพราะอย่าลืมว่าเว็บไซต์ของเรานั้นสามารถที่จะทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งนับว่าเป็นข้อดีอย่างมากสำรหับการเลือกทำธุรกิจออนไลน์ที่ผู้ใช้งานทุกคนสามารถที่จะเข้ามายังร้านค้าออนลไน์ของเราได้ทุกเวลาโดยที่ไม่มีเวลาเปิด-ปิดเหมือนร้านค้าทั่วไปนั่นเอง ดังนั้นการเลือกใช้งาน Host ต้องมีการดูแลอย่างใกล้ชิดโดยเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์ เพราะหากเกิดปัญหาในการใช้งาน Hosting เจ้าหน้าที่ก็จะได้สามารถาจัดการแก้ไขปัญหาต่างๆให้เราได้ทันที

การให้บริการ Host

AIS Pocket wifi

“พ็อกเก็ต ไวไฟ” (Pocket Wifi) เป็นโมเด็มไร้สายพกพาจากเอไอเอส (AIS) ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด แต่การใช้งานอเนกประสงค์มากกว่าขนาดที่เห็นแรกเริ่มวิธีใช้ ก็คือต้องใส่ซิมเข้าไป และในที่นี้ก็จะต้องเป็นซิมของเอไอเอส เพื่อจับสัญญาณเอไอเอส 3จี (AIS 3G) สำหรับนำไปใช้งาน โดยการถอดฝาหลังออก ถอดแบต ใส่ซิมการ์ด เมื่อเปิดการใช้งาน ตัวเครื่องจะจับหาสัญญาณไวไฟ ซึ่งสำหรับสัญญาณไวไฟที่ใช้กับของเอไอเอสได้ ก็คือ 3บีบี (3BB) เมื่อใดที่เครื่องนี้หลุดออกจากพื้นที่ที่มีไวไฟ ระบบก็จะหันไปจับสัญญาณเอไอเอส 3จี ทันที

เมื่อเครื่องจับสัญญาณอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ก็จะสามารถทำหน้าที่เป็นตัวปล่อยสัญญาณไวไฟออกไป ซึ่งอุปกรณ์ที่จะมาเชื่อมต่อได้ จะสามารถเชื่อมต่อได้สูงสุดถึง 10 อุปกรณ์ด้วยกัน เวลาใช้งาน เพียงแค่เราเปิดอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อ ค้นหาสัญญาณไวไฟจากเครื่องพ็อกเก็ต ไวไฟ ถ้าจับเจอสัญญาณเอไอเอส 3จี ให้เลือกที่ชื่อ AISPocketwifi แล้วก็กรอกรหัส Wifi Key ที่อยู่ด้านในฝาหลังเครื่อง แต่ถ้าเป็นสัญญาณเอไอเอส ไวไฟ ก็ต้องคลิกเลือก AISwifi แล้วกรอก Username และ Password

พ็อกเก็ต ไวไฟ จะมีหน้าจอที่มีปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง แสดงการทำงานต่างๆ เช่นสัญญาณมือถือ 3จี สัญญาณไวไฟ ปริมาณแบตเตอรี่ และข้อความที่เข้ามา โดยเครื่องจะต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ซึ่งเราก็สามารถเสียบไฟชาร์จได้กับสายไมโครยูเอสบีทั่วไปโดยเสียบเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้เลย และเวลาในการใช้งานก็ขึ้นอยู่กับว่าเชื่อมต่อกับอุปกรณ์กี่ตัว เชื่อมต่อมากน้อยเพียงใด คร่าวๆ ก็พอใช้งานได้ 1 วัน

ส่วนเรื่องของสัญญาณ 3จี นั้น ด้วยความที่อยู่ในตัวเมือง สัญญาณจึงใช้ได้ดีทีเดียว ถ้าเมื่อไหร่ใช้หมด ก็ไปเติมเงิน

พ็อกเก็ต ไวไฟ ขายอยู่ที่ประมาณพันกว่าบาท และมีโปรโมชั่นสำหรับการใช้บริการอยู่ ไปหาอ่านได้ตามเว็บไซต์ต่างๆ และถือว่าเป็นโมเด็มไร้สายพกพาเพียงรุ่นเดียวในท้องตลาด ที่สามารถจับได้ทั้งสัญญาณไวไฟและสัญญาณอินเตอร์เน็ตจากมือถือ ทำให้เงื่อนไขในการจับสัญญาณง่ายขึ้น ถ้าเจอไวไฟ ก็ใช้ไวไฟ ถ้าเจอ 3จี ก็ใช้ 3จี ถือว่าเหมาะสำหรับการใช้งานเมื่อต้องการจะควบคุมค่าใช้จ่าย และต้องการใช้กับอุปกรณ์หลายๆ เครื่อง ที่ไม่ได้มีซิมประเภทใช้งานอินเตอร์เน็ตไม่จำกัดไว้ อย่างบางบ้านที่ไม่ได้ต่อไวไฟในบ้านก็เหมาะสำหรับเอาไปใช้ เพราะถ้าเงินหมดก็เติม ไม่อยากให้ใช้ ก็ไม่ต้องเติม ปิดเครื่อง เอาไปเก็บซะ สะดวกทั้งการใช้งานและสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้เอง

AIS 3G 2100 เปิดตัว “เจมส์ จิ” พรีเซ็นเตอร์ สื่อแนวคิด “ตัวจริงในแบบคุณ”

AIS 3G 2100 ตัวจริง มาตรฐานโลก เดินหน้าครองใจลูกค้าต่อเนื่อง ล่าสุดคว้าตัวซุปตาร์สายฟ้าแล่บ “เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข” ขึ้นแท่นพรีเซนเตอร์พร้อมเป็นสมาชิกของครอบครัว AIS 3G อย่างเป็นทางการ เพราะตัวตนของพระเอกหนุ่มสะท้อนภาพลักษณ์ ความเป็น “ตัวจริง” ในฐานะนักแสดงที่เล่นละครเพียงเรื่องแรกก็แจ้งเกิดได้สะท้านวงการด้วยความมุ่งมั่นแบบสุดๆ เช่นเดียวกับความตั้งใจของ AIS 3G 2100 ในฐานะ “ตัวจริง” ที่มุ่งมั่นให้บริการจนสามารถก้าวมาครองใจลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
ลูกค้าเอไอเอสเตรียมตัวพบกิจกรรมและบริการล้ำๆที่ AIS 3G และเจมส์ จะยกขบวนไปมอบให้พี่น้องทุกคน พร้อมชวนสร้าง “ตัวจริงในแบบคุณ” ทั่วประเทศ แล้วเจอกัน!

โปรดีแทค 3G Internet เชื่อมต่อการสื่อสารทั่วกรุงเทพมหานครและอีกกว่า 45 จังหวัดทั่วไทย

ที่ผ่านมาดีแทคถือเป็นค่ายที่มีจุดเด่นด้านการขยายเครือข่ายอินเตอร์เน็ต 3G DTAC ได้ครอบคลุม แม้ในจังหวัดไม่ใหญ่มาก ซึ่งเครือข่ายอื่นไม่ได้เข้าไปติดตั้งโครงข่ายสัญญาณ 3G ดีแทคก็ยังเข้าไปได้ถึง

หากลูกค้าอยู่ในพื้นที่ที่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต 3G DTAC ก็จะสามารถเล่นเน็ตความเร็ว 3G สูงสุดอยู่ที่ 42Mbps แต่หากอยู่ในพื้นที่ไม่มีสัญญาณ 3G เมื่อสมัครโปรดีแทค 3G DTAC แล้วก็จะเล่นเน็ตดีแทคได้ในความเร็วปกติทั่วไป ทั้งนี้ความเร็วที่ได้รับอยู่ที่ปริมาณผู้ใช้งานในพื้นที่ใกล้เคียงกันด้วย

สมัครโปรเน็ตดีแทค 3G ได้เองง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าดีแทคแบบเติมเงินหรือแบบรายเดือน หากมีเบอร์ดีแทค อยู่แล้ว เพียงแค่กดสมัครโปรโมชั่นเน็ตดีแทค ก็สามารถเล่นเน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือของท่าน ไอโฟน ( iPhone )ไอแพด ( iPad ) แอร์การ์ด ( aircard ) ฯลฯ

จุดเด่นของโปรเน็ต 3G DTAC รายเดือน คือแต่ละโปรโมชั่นมีราคาไม่แพง คุ้มค่าในการใช้งาน

แท็บเล็ตต้องEasy To Connect: เชื่อมต่อง่าย ไร้ข้อจำกัด

Easy To Connect: เชื่อมต่อง่าย ไร้ข้อจำกัด

แท็บเล็ตที่ไม่มีช่อง USB ก็เหมือนแท็บเล็ตที่กำแพงครอบ เพราะการเชื่อมต่อผ่าน USB จะทำให้โอนถ่ายข้อมูลได้ง่ายกว่า เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์แล้วโยนไฟผ่าน My Computer ได้เลย แถมยังต่อกับ USB Connector เพื่อดึงข้อมูลจาก SD Card ได้ด้วย ใช้คู่กล้องดิจิตอลหรือมือถือได้สะดวก ทุกที่ทุกเวลา ไม่ต้องเสียเวลา sync ข้อมูลให้ยุ่งยาก ซึ่งทำให้ข้อมูลสูญหายได้ง่าย

Phone capabilities: โทรออกได้

มีแท็บเล็ตที่โทรออกได้ก็เหมือนได้ประโยชน์สองต่อ แท็บเล็ตที่มีฟังก์ชั่นการโทรออก-รับสาย จะทำให้คุณทำงานได้คล่องตัวขึ้น ไม่ต้องพกทั้งมือถือ ทั้งแท็บเล็ตให้วุ่นวาย หรือจะใช้แยกเบอร์ติดต่อเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวก็ดีไปอีกแบบ